วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2550

งาเม็ดจิ๋ว...พลังแจ่มแจ๋ว



เคยได้ยินไหมกับคำว่า Size doesn't matter ที่ว่าเรื่องขนาดไม่ใช่ สิ่งสำคัญ เสมอไป ใช่ว่าของดีจะต้องมีขนาดใหญ่ เพราะอย่าง เจ้างาดำ เมล็ดรี แม้ว่าขนาดจะกระจ้อยร่อย แต่คุณค่าและ ประโยชน์ของมันกลับยิ่งใหญ่เกินตัวหลายเท่านัก เรียกได้ว่า ทานเพียง อย่างเดียวก็ให้ประโยชน์ทั้งในด้านสุขภาพร่างกาย ป้องกันโรค และช่วยเสริมส่งความงามให้กับเรือนร่าง ได้แทบ ทุกส่วนสัก ไม่ว่าจะเป็นผิดหน้า เส้นผม ฟันและผิวพรรณเมื่อพูดถึงงา คนส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงเมล็ดงาสีขาว-ดำ อันเป็น องค์ประกอบของอาหารคาว-หวาน ของไทยนานาชนิด ช่วยให้ ความหอมมัน และความอร่อย เสียจนอาจจะทำให้หลายคน มองข้าม คุณสมบัติอันมหาศาลของมันไป
แต่ด้วยกระแสสนใจสุขภาพที่หลายๆ คนทำลังเป็นกันอยู่ในขณะนี้ ทำให้งากลายเป็นอาหารที่สาวๆ เลือกเป็นเพื่อน คู่คิด มิตรคู่ใจ สหายคนใหม่ แทนที่อาหารเพื่อความงามอย่าง แก้วมังกร แอปเปิ้ล มะเขือเทศ อย่างในอดีต เพราะนอกจากงาจะช่วย เรื่องความสวย ความงามแล้ว ด้านประโยชน์ต่อสุขภาพที่ไม่น้อยหน้าแต่อย่างใด ซึ้งเจ้างาเม็ดจิ๋ว จะมีอาวุธลับ สร้างความงาม และความแข็งแรงให้กับเรือนร่างอย่างไรบ้าง เราลองไปตามดูกัน
เริ่มจากประโยชน์ที่ร่างกาายเราจะได้รับจากการประทานงา ที่มีการผลิตออกมาในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการนำมา รับประทานแบบเป็นการรับประทานแบบที่ถูกนำมาแปรรูปเรียบร้อยเป็นน้ำมันงา
อย่างแรกที่โดดเด่นที่สุดในส่วนประกอบของงา คือ แคลเซียม ซึ่งมีสูงถึง 11 เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่านมวัว ถึง 6 เท่า และมากกว่าพืชชนิดอื่นๆ เป็น 10 เท่า ในปริมาตรที่เท่ากัน นอกจากนี้ งานยังมีปริมาณของ ฟอสฟอรัสสูง ซึ่ง 2 สิ่งนี้ นับว่ามีประโยชน์ต่อกระดูก ฟัน เป็นอย่างมาก
และที่สำคัญคือ เป็นสิ่งที่หญิงวัยทองต้องการ เพราะเมื่อถึงคราวหมดประจำเดือน ผู้หญิงจะมีการบกพร่อง ฮอร์โมน เอสโตรเจน ทำให้ร่างการดึงแคลเซียมออกจากกระดูก ก่อให้เกิดโอกาสที่จะเป็นโรคกระดูกเสื่อมสูง งาสามารถ เติมเต็มแคลเซียม ส่วนที่ขาดไปนี้ได้ ทำให้ไม่ต้องเสี่ยงกับการเป็นโรคกระดูกเสื่อมของสตรีวัยทอง
นอกจากงาจะเป็นราชาแคลเซียมแล้ ในเมล็ดสีดำสนิทนี้ยังมีสารอาหารที่มีคุณค่าอีกหลายอย่าง เมื่อนำมาสกัดออกมา เป็นน้ำมันงา งาก็จะให้กรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวสูง มีทั้งกรดไขมัน โอเมก้า 3 และ 6 ที่เป็นกรด ไขมันที่มีประโยชน์ ช่วยลดคลอเลสเตอรอล ป้องกันได้สารพัดโรค ทั้งโรคหัวใจ หลอดเลือดแข็งตัว ลดความดันโลหิน ขยายหลอดเลือด ป้องกันเกล็ดเลือดเกาะตัวกันเป็นลิ่ม
สิ่งอื่นๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเจ้างา ยังมีโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ธาตุเหล็กช่วยบำรุงเลือด ธาตุาสังกะสีช่วยบำรุงผิวหนังธาตุไอโอดีนป้องกันโรคคอหอยพอก และแร่ธาตุอีกมากมายทั้ง แมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และทองอืดพร้อมด้วยวิตามิน ชนิดต่างๆ ทั้ง เอ บี ซี และอี อันมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ช่วยต้านมะเร็ง
ส่วนวิตามินบี งามีทั้ง บี1 บี2 บี3 บี5 บี6 บี9 ทั้งบำรุงโลหิต เรื่องการไหลเวียนโลหิต ไม่เป็นโรคเหน็บชา ช่วยเรื่องระบบการย่อย และการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก บรรเทาอาการรีดสีดวงทวาร บำรุงและเสริมสร้าง ระบบประสาท ช่วยให้ร่างกาย ผ่อนคลาย นอนหลับ ตื่นขึ้นมากระปรี้กระเปร่า กระฉับ กระเฉง ไม่อ่อนเพลียง่าย เรียกได้ว่าประโยชน์นานาประการ
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อนรู้ใจคนนี้ ยังสามารถนำมาสกัดทำน้ำมันงาที่สามารถนำมานวดตัวก็ให้ประโยชน์กับร่างกาย ไม่น้อยไปกว่า การนำมาทาน เพราะน้ำมันสามารถซึมซับเข้าสู่ผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว คุณสมบัติ ทั้งหลายแหล่ของน้ำมันงา จะช่วยปรับ ระบบประสาทและระดับฮอร์โมนให้เหมาะสม ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อยต่างๆ นานาในทุกสัดส่วน และยังช่วยทำให้ผิวหนังเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น ประกอบการช่วยระบบขับถ่ายให้ดำเนินไปได้อย่างดี ขจัดของเสียออกจากร่างกายและผิวหนัง ทำให้ผู้ที่รับประทานงาเป็นประจำจะแลดูผ่องใส ผิวพรรณ อื่มเอิบ ดูอ่อนเยาว์ อยู่เสมอ
เคล็ดลับความสวยของงาไม่ได้ให้ผลดีแค่เพียงผิวพรรณหรือผิวหน้าเท่านั้น องค์ประกอบของกรดไขมันไลโนเลอิกที่นอกจากทำให้ผิวชุ่มชื่นแล้ว ยังทำให้ผมดกดำ นิ่มสลวย และเงางาม ตรงตามความเชื่อของคนโบราณที่ให้นำน้ำมันงามาผสมกับไข่แดงและหมักผมทิ้งไว้ ช่วยบำรุงสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรงสวยงาม และเมื่อถึงคราวหน้าหนาวเพื่อป้องกันผมแห้งเสียแตกปลาย หรือผิวแตกแห้ง สามารถใช้น้ำมันงาชะโลมทา เพื่อป้องกันความชุ่มชื่นให้อยู่กับเรือนร่างคุณได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า ทานงาเพียงอย่างเดียวนี้ก็ช่วให้ประโยชน์กับสาวๆได้อย่างครบครัน ทั้งเรื่อง สุขภาพแข็งแรง และบำรุงความงามได้ทุกสัดส่วน โดยปริมาณพอเหมาะที่ควรจะเลือกทานคือ ประมาณ 2-4 ช้อนโต๊ะต่อวัน เพราะถ้ามากกว่านั้น คุณอาจจะได้รับสารอาหารอย่างเกินความต้องการ นอกจากความสวยงาม ภายนอกแล้ว ภายในก็ แข็งแรงด้วยแคลเซี่ยมเพื่อให้รางวัลกับสุขภาพกับตัวคุณเอง คราวนี้จะไปเที่ยวจะทำกิจกรรม อะไรก็ได้ "นี่แหละรางวัลแห่งชีวิต"

ไม่มีความคิดเห็น: