วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

กินอะไรใน Provence

ลา นาแวต (La navette) เป็นขนมพื้นเมืองของชาวมาร์เซย์ที่มีมานานกว่า 2000 ปี มีรูปร่างคล้ายเรือ ความยาวขนาด 7-8 ซม. La navette จัดเป็นขนมในตระกูลบิสกิต (Biscuit) สามารถเก็บไว้ได้นานในกล่องเหล็กปิดสนิท ก่อนรับประทานให้นำมาอุ่นก่อนอร่อยถูกใจค่ะ มีให้เลือก 3 แบบด้วยกันค่ะ • les navettes classiques à la fleur d'oranger (แบบคลาสสิก ผสมกลิ่นดอกส้ม) • les navettes marseillaises sans fleur d'oranger (แบบชาวมาร์เซย์ ไม่ผสมกลิ่นดอกส้ม) • les navettes provençales (แบบโพวองซ์ซาลซึ่งจะนิ่ม แต่เก็บไว้ได้ไม่นาน)



กาลิซง (Le Calisson) เป็นขนมพื้นเมืองประจำเมือง เอ็กซองโพวองซ์ (Aix-en-Provence) มีขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 มีส่วนผสมหลักได้แก่ เมลอนเชื่อม แป้งอัลมอนล์ น้ำผึ้ง และเปลือกส้มเชื่อม อาจเป็นเพราะกาสิซงเป็นขนมที่ถือกำเนิดมาแล้วหลายศตวรรต และต้องผ่านการผลิตที่ยากเย็นทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูง สำหรับรสชาตินั้นขอบอกว่าต้องมาชิมด้วยตนเอง ยิ่งปัจจุบันผู้ผลิตได้ผลิตกาลิซงออกมามีรสต่างๆ มากขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้ลิ้มรสกัน





บุยยาเบส (La Bouillabaisse) เป็นอาหารจานเด็ดเมื่อท่านมาเที่ยวมาร์เซย์แล้วจะพลาดไม่ได้ ถือเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดจานหนึ่งของฝรั่งเศส ในสายตาของพวกเราคนไทย เมื่อได้เห็นอาหารจานเด็ดจานนี้ หากไม่เรียกว่า ซุปปลา ก็คงนึกว่าฝรั่งก็กินแกงเหลืองเหมือนกันหรือนี่ เนื่องจากว่ามาร์เซย์เป็นเมืองท่าเรือ ดังนั้นจึงเป็นการง่ายที่จะหาวัตถุดิบจากทะเล เพราะอาหารจานนี้เต็มไปด้วยปลาหลายชนิด ปู หอย และอื่นๆอีกหลายอย่าง ต้องผ่านกรรมวิธีที่ซับซ้อนยุ่งยากเกินกว่าที่จะทำกินกันเองที่บ้าน เมื่อเสร็จออกจากครัวแล้วจึงทำให้ได้น้ำซุบที่เข้มข้น หอมหวนชวนรับประทานยิ่งนัก


น้ำมันมะกอก (L'Huile d'Olive) น้ำมันมะกอกแหล่งผลิตที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศสก็เห็นจะเป็น น้ำมันมะกอกทางตอนใต้ของฝรั่งเศสนี้เอง ชาวฝรั่งเศสใช้น้ำมันมะกอกในการปรุงอาหารและรับประทานกับสลัด มาเที่ยวโพวองซ์ทั้งทีต้องชิมสลัดน้ำมันมะกอกสูตร โพวองซ์ซาล น้ำมันมะกอกเขาหอมจริงๆ และที่อยากให้ชิมอีกอย่างซึ่งเป็นผลิตภัณท์จากมะกอกเช่นกัน เขาเรียกว่า Tapenade (ตา เปอร์ นาด) ใช้ทากับขนมปังกรอบ รับประทานเป็น Appertizer ของทานเล่นกับเครื่องดื่มต่างๆ อย่างนี้ไม่ลองไม่ได้ซะแล้ว



ไวน์ชมพู หรือ ไวน์กุหลาบ (vin rosé) มาถึงฝรั่งเศสถ้าไม่ได้ชิม ไวน์ ก็เหมือนไปไม่ถึงฝรั่งเศส สำหรับโพวองซ์นั้นก็มีไวน์ ขึ้นชื่อที่ต้องชิมก็คือ ไวน์สีชมพู หรือไวน์กุหลาบ (vin rosé) เป็นไวน์ที่มีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นผลไม้หรือดอกไม้ ดื่มแล้วรู้สึกว่าจะเบากว่าดื่มไวน์แดง (แต่จริงๆแล้วก็เมาเหมือนกัน) เวลาดื่มจะเสิร์ฟแบบเย็น ซึ่งต่างกับไวน์แดงที่จะดื่มในอุณหภูมิปกติ ในโพร์วองซ์เป็นย่านที่ผลิตไวน์ชนิดนี้จำนวนมาก และมีชื่อเสียง อาจเป็นเพราะย่านนี้อบอุ่นกว่าที่อื่น ยิ่งในฤดูร้อนแล้วนั้น อากาศร้อนจริงๆ การได้ดื่มไวน์สีชมพูนี้ ช่างชื่นใจและดื่มได้เรื่อยๆ












ไม่มีความคิดเห็น: