วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550

GITE DE FRANCE




GITE DE FRANCE :
Le gîte rural et la chambre d’hôte
เดือนกุมภาพันธ์ที่เพื่อนๆหลายคนเฝ้ารอก็มาถึงแล้วนะคะ หลายคนคงได้หยุดพักกันไปบ้างแล้ว บางคนก็ยังมีวันหยุดเหลือกันอยู่ใช่ไหมคะ พูดถึงวันหยุด หลายต่อหลายคนคงจะมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะไปเล่นสกี ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมหลักของฤดูกาลนี้ก็ว่าได้ นอกเหนือจากการไปเล่นสกีแล้ว การเดินทางไปสำรวจต่างถิ่นต่างแคว้น ก็เป็นอีกกิจกรรมของการท่องเที่ยวที่น่าสนใจเช่นกัน
เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวต่างถิ่นต่างแคว้นแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับการเดินทางนั้นคือ การหาที่พัก ณ เมืองนั้นๆ วันนี้ Me to you ขอเล่าเรื่องที่พักให้เพื่อนๆได้ฟังนะคะ ช่วงที่เพื่อนๆหาที่พักกันอยู่นั้น เพื่อนๆเคยสังเกตเห็นคำว่า Gîte de France และ Chambre d’hôte กันหรือเปล่าคะ ส่วนตัวเองนั้นสังเกตอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อไม่สามารถหาที่พักตามโรงแรมได้ เจ้าหน้าที่ของการท่องเที่ยว ณ เมืองนั้นๆ มักจะเสนอให้ไปพักกันที่นี่ แต่ Me to you ก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปพักสักที แต่ด้วยความสงสัยว่ามันเป็นอย่างไร จึงลองไปค้นหาดู แล้วเลยถือโอกาสนำมาเล่าแบ่งปันให้เพื่อนๆได้ฟังกัน เผื่อว่าเพื่อนๆสนใจจะลองไปใช้บริการกันคะ

คำว่า Gîte แปลว่า ที่อยู่ ที่พักอาศัย ในขณะที่ Chambre d’hôte ถ้าแปลตรงตัว ก็น่าจะแปลได้ว่า ห้องของเจ้าของบ้าน

ก่อนอื่นต้องขออธิบายกันคร่าวๆก่อนนะคะ ว่า Gîte de France เปรียบเสมือนกับ ตราหรือสัญลักษณ์ การให้ระดับและรับประกันคุณภาพของที่พักนั้นๆที่เข้าร่วมโครงการ นอกจากนั้น Gîte de France จะให้ระดับของความสะดวกสบายเช่นเดียวกับโรงแรมต่างๆ เพียงต่างกันที่ โรงแรมจะให้ระดับความสะดวกสบายด้วย “จำนวนดาว” ในขณะที่ Gîte de France จะให้ระดับความสบายด้วย “จำนวนรวงข้าว” ซึ่งปัจจุบันนี้ Gîte de France ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของที่พักเพื่อการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติในประเทศฝรั่งเศส การที่ Gîte de France จะให้สัญลักษณ์ได้นั้น บ้านหรือที่พักที่ขอเข้าร่วมนั้นจะต้องตอบสนองความต้องการด้านท่องเที่ยวแบบท้องถิ่น สถานที่ตั้งนั้นมีความสงบและอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อีกทั้งที่พักนั้นร่วมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมตามชนบท ซึ่งส่วนตัวสังเกตได้ว่า ที่พักลักษณะนี้มักจะตั้งห่างออกไปจากตัวเมืองเล็กน้อย ถึงปานกลาง

Gîte de France นั้นเสนอภาพของที่พักที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ในบรรยากาศของท้องถิ่นนั้นๆ ให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพัก ได้สัมผัสกับบรรยากาศและลักษณะของผู้คนในท้องถิ่นนั้น

Gîte de France แบ่งประเภทของที่พักหลายประเภท แต่ที่เพื่อนๆรวมทั้งตัวเราเองมักพบเห็นบ่อยๆ ขณะเดินทางท่องเที่ยวนั้น ก็คือ Le gîte de rural และ La chambre d’hôte

วันนี้ Me to you จึงขอเล่าถึงที่พักสองประเภทนี้ก่อนนะคะ เริ่มจาก Le gîte de rural
Le gîte de rural นั้นจะตั้งอยู่แถวตามชนบท ทะเล หรือ ภูเขา ลักษณะของ gîte de rural จะเป็นบ้านที่มีห้องเดียวหรือหลายๆห้อง รวมทั้งมีห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว และห้องน้ำ ซึ่งเพื่อนๆสามารถที่จะเช่าไม่กี่วัน หรือเป็นสัปดาห์ก็ได้คะ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้มาพัก มักจะมากันในช่วงวันหยุดเรียน เมื่อผู้มาพักมาถึง เจ้าของบ้านจะมาต้อนรับด้วยความอบอุ่น ให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนว่าผู้มาพักนั้นมาพักที่บ้านของตัวเอง

ระดับคุณภาพของบ้านพักแต่ละที่นั้น Gîte de France จะให้สัญลักษณ์เป็น รวงข้าว ตั้งแต่ 1-5 รวงข้าวเลยคะ ซึ่งขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายและสิ่งอำนวยความสะดวก


ที่พักอีกแห่งที่เป็นที่นิยมก็คือ La chambre d’hôte หรือที่พวกเรารู้จักกันดีในชื่อว่า bed and breakfast ที่พักประเภทนี้ จะมีลักษณะคล้ายกับโรงแรมมากกว่าประเภทแรกคะ เพื่อนๆสามารถมาพักแค่หนึ่งถึงสองคืนก็ได้ ที่นี่เจ้าของบ้านจะปรับเปลี่ยนบ้านของตัวเองให้เป็นเหมือนโรงแรมเล็กๆ คะ เพราะในบ้านนั้น มีห้องพักไม่เกิน 6 ห้องคะ ส่วนบรรยากาศมักจะเงียบสงบ เพื่อให้เพื่อนๆได้ชื่นชมกับธรรมชาติโดยรอบ และบางทีเพื่อนๆอาจมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ที่มาพักที่นี่ก็ได้นะคะ เพราะที่นี่ก็มีลักษณะเหมือนบ้านเลยคะ มีห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร
ราคาที่พักนั้นจะรวมอาหารมื้อเช้าให้เพื่อนๆด้วยนะคะ ข้อดีของการพักที่นี่ก็คือ เพื่อนๆจะมีโอกาสได้ชิมแยมที่เจ้าของบ้านทำเอง รวมทั้ง ขนมปัง และขนมหวานต่างๆ ที่เจ้าของบ้านมักจะเป็นผู้ทำเอง อีกทั้งเนยแข็งหรือผลิตภัณฑ์นมต่างๆก็จะมาจากท้องถิ่นนั้นๆ

จำนวนรวงข้าวที่ Gîte de France ให้นั้นมีตั้งแต่ 1-4 รวงข้าวคะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับลักษณะและที่ตั้งของบ้าน รวมทั้งความสะดวกสบาย การตกแต่งของบ้านนั้น และ สิ่งอำนวยความสะดวกที่เจ้าของเสนอให้กับผู้ที่มาพัก

จะว่ากันไปแล้ว ถ้าเพื่อนๆมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวแถบชนบท Me to you ขอแนะนำให้เพื่อนๆลองไปใช้บริการกันดูนะคะ ไม่ว่าจะเป็น le gîte rural หรือ la chambre d’hôte เพราะนอกจากราคาที่พักจะไม่แพงมากแล้ว เพื่อนๆยังมีโอกาสได้เรียนรู้ลักษณะการใช้ชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นนั้นๆด้วยคะ ^^

ไม่มีความคิดเห็น: